การส่องกระจกในการเล่นเวทเทรนนิ่ง ทำไปทำไม
การเล่นเวท กับกระจกติดผนังนั้น เป็นของคู่กัน ถ้ามีอย่างแรกจะขาดอย่างหลังไม่ได้
ผู้คนนอกวงการจะถามว่าทำไม หรือไม่ก็ด่วนสรุปว่า นักกล้ามนั้นเป็นพวกหลงรักตัวเอง (narcissistic) ซึงว่าไปแล้วก็มีความจริงอยู่บ้าง แต่ไม่ทั้งหมด
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า การเล่นกล้ามให้ใหญ่และสวยงานนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีวินัย ความตั้งใจ ต้องลงทุนลงแรง ฟันฝ่าความเจ็บปวด ระยะเวลาเป็นปีๆ เพื่อให้บรรลุผล
ถ้านักยกเวทไม่เป็นพวกรักตัวเอง จะไม่สามารถผ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ไปได้
แล้วเกี่ยวอะไรกับกระจกครับ หรือว่าก็เพราะเป็นพวกหลงงรักกับตัวเอง จึงแต่ได้เฝ้ามองตัวเองบนกระจก
ถ้าจะจริงก็จริงครึ่งเดียวครับ
สาเหตุหลักที่นักกล้ามดูกระจกก็คือการดู ฟอร์มการเล่นที่ถูกต้อง เพราะท่าบริหารส่วนใหญ่ ผู้เล่นแทบจะไม่สามารถรู้เลยว่าเล่นถูกต้องหรือเปล่าถ้าไม่มีกระจก
ส่วนการเบ่งกล้าม (muscle flexing) หน้ากระจกนั้น ก็เป็นกรรมวิธีอย่างหนึ่งที่ทำให้กล้ามเนื้อเปล่งประกายออกมา ใช้เฉพาะบนเวทีประกวดเพาะกาย
ทั้งสองกรณีข้างต้นก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่จะเห็นในฟิตเนสเซ็นเตอร์ และโรงยิมทั้วไป
แต่ก็มีกรณีที่สามที่จะมี่ให้เห็นบ่อยๆคือ นั่งพินิจพิเคราะห์ ส่องกระจก ดูตัวเอง แล้วบ่นว่า ไม่ใหญ่สักที
ส่องกระจกมากกว่ายกเวท
ถ้าเป็นอย่างนี้ ส่วนใหญ่จะท้อถอยครับ
การเล่นเวท ควรใช้ ปณิธานและการปล่อยวาง ในเวลาเดียวกัน
เล่นวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วก็อย่าไปคิดวอกแวก กระวนกระวายอะไร ถ้าเราเล่นได้ถูกต้องตามหลักวิชาแล้ว ใหญ่แน่นอนครับ แต่อย่าไปจับจดกับมันจนท้อถอยเลย